ตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน กระแสการเลิกจ้างหรือ ‘Layoff’ ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก เนื่องจากปัจจัยเรื่องสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ทำให้หลายองค์กรยักษ์ใหญ่ไปจนถึงองค์รเล็ก เลือกที่จะเลิกจ้างพนักงานเพื่อให้บริษัทไปต่อได้
ในมุมมองของพนักงาน คงไม่มีใครอยากตื่นมาแล้วได้ยินข่าวร้ายหรือเป็นคนที่ถูกเลือกให้ออก แต่ไม่ว่าคุณจะทำงานได้ดี หรือรักงานนี้มากแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีโอกาสเจอเรื่องแบบนี้
วันนี้ Q Hunter มีคำแนะนำดีๆ จาก Harvard Business Review มาฝากสำหรับคนที่กำลังถูกเลิกจ้าง หรือมีแนวโน้มที่ต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ เราจะพาคุณมูฟออนและเริ่มใหม่อีกครั้ง
[ปรับ Mindset ใหม่ อย่าคิดว่าตัวเองถูกเลิกจ้างเพราะไม่เก่ง]
การถูกเลิกจ้าง ไม่ได้สะท้อนถึงทักษะของคุณ แต่เป็นสะท้อนให้เห็นว่าองค์กรของคุณขาดการวางแผน หรือบริหารงานผิดพลาดในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย หากคุณเป็นที่มีความสามารถ มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญในงานที่คุณทำ รับรองว่าหางานใหม่ได้ไม่ยาก
แต่คงไม่มีใครมีความสุขเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกเลิกจ้าง ถ้าคุณกำลังอยู่ในสภาวะคิดลบ และพยายามหาคำตอบว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นกับคุณ ลองเอาเวลาไปโฟกัสที่กิจกรรมใหม่ ใช้เวลานี้พักผ่อน และทำสิ่งที่ไม่มีเวลาทำในช่วงที่ยังทำงานให้เต็มที่ เช่น อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ท่องเที่ยว ทำสมาธิ ทำอาหาร ทำสิ่งที่ทำให้สุขภาพจิตของคุณดีขึ้น ก่อนจะรวบรวมความมั่นใจของตัวเองอีกครั้งเพื่อสมัครงานใหม่ เพราะการหางานทั้งๆ ที่คุณยังจิตใจไม่สงบ ยังมีความทุกข์อยู่ ก็อาจจะทำให้การสัมภาษณ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
[ลิสต์รายการความสำเร็จของคุณออกมา ]
การโดนเลิกจ้างคงทำให้หลายคนตั้งคำถามกับตัวเองว่าฉันทำผิดอะไร? ฉันทำงานไม่ดีตรงไหน? หรือทำไมต้องเป็นฉัน? หากคุณอยากหลุดออกจากความคิดลบๆ เราอยากให้คุณเขียนความสำเร็จที่คุณเคยทำออกมาเป็นข้อๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจทักษะและความสามารถของคุณในปัจจุบันได้มากขึ้น และจะทำให้คุณมีสติกับการหางานใหม่มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ สิ่งที่คุณเขียนออกมายังช่วยให้คุณเตรียมตัวสัมภาษณ์งานใหม่ได้ดีขึ้นด้วย เพราะถ้าผู้สัมภาษณ์ถึงความสำเร็จที่ผ่านมา คุณสามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปตอบคำถามได้
[ตอบให้ได้ว่าตัวเองต้องการอะไร]
หลังจากถูกเลิกจ้าง ควรใช้เวลาตรงนี้คิดถึงสเต็ปต่อไปของอาชีพการงานของคุณ ถามตัวเองว่าคุณอยากทำงานในองค์กรเล็กหรือองค์กรใหญ่? อยากทำตำแหน่งเดิมหรือย้ายไปทำตำแหน่งอื่น? อยากทำงานในเมืองเดิม ย้ายจังหวัด หรือย้ายประเทศ?
เขียนสิ่งที่คุณคิดออกมา ตอบตัวเองให้ได้ว่าอยากทำงานแบบไหน คุณให้คุณค่ากับอะไร เพื่อที่คุณจะได้คิด วางแผน และหางานใหม่ที่สามารถพาคุณไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ รวมถึงได้งานใหม่ที่สอดคล้องกับค่านิยมของตัวเองด้วย
การถูกเลิกจ้าง ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีสิทธิ์เลือกงาน หรือหางานในฝันที่คุณต้องการ คุณยังทำทุกอย่างได้เหมือนเดิม เพราะการถูกเลิกจ้างไม่ได้เป็นตัวพิสูจน์ว่าคุณมีความสามารถหรือไม่
[สร้างตารางการหางานขึ้นมา]
ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณจะว่างงาน แต่การหางานก็นับเป็นงานเต็มเวลาเหมือนกันนะ คุณควรสร้างตารางการหางานขึ้นมา แพลนเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์ว่าคุณจะทำอะไรบ้าง เพราะการหางานที่มีประสทิธิภาพไม่ได้มีแค่การกดสมัครในเว็บไซท์หรือเปิด LinkedIn ไว้เท่านั้น แต่คุณควรใช้คอนเน็คชันที่มีให้เกิดประโยชน์ นัดพูดคุยกับคนที่คุณรู้จักเพื่อขอคำปรึกษา ทุ่มเทเวลาให้กับการปรับปรุงเรซูเม่ใหม่ และฝึกฝนการตอบคำถามสัมภาษณ์ การตั้งเป้าหมายในการหางานในแต่ละวันจะช่วยสร้างโอกาสให้คุณประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น แถมยังทำให้คุณได้โฟกัสกับกิจกรรมใหม่ ไม่ต้องจมอยู่กับความคิดที่ถูกเลิกจ้าง
[หางานที่คุณสนใจ แต่อย่าเพิ่งสมัคร]
ก่อนที่จะอัพเดทเรซูเม่ของคุณ ให้เขียนรายละเอียดงานที่คุณสนใจและประสบการณ์ที่มีออกมาก่อน แล้วไฮไลท์คีย์เวิร์ดสำคัญเอาไว้ เพราะคีย์เวิร์ดเหล่านี้ควรจะเป็นคีย์เวิร์ดเดียวกันกับที่อยู่ใน Job Description ของงานที่คุณจะสมัคร วิธีการนี้จะทำให้คุณหาแบบไม่หลงทางและประหยัดเวลามากขึ้น เพราะบางครั้งในเว็บบอร์ดหางานก็มีงานจำนวนมหาศาล จนทำให้คุณเหนื่อยกับการเฟ้นหางานที่เหมาะสมกับตัวเอง
ที่สำคัญอย่าลืมอัพเดทเรซูเม่ทุกครั้งก่อนสมัคร และปรับคีย์เวิร์ดในเรซูเม่ให้ตรงกับ Job Description ด้วยนะ
Source:
Harvard Business Review
—-------------------------
Q Hunter - Matching the right people at the first time
บริษัทจัดหางานที่มีตำแหน่งงานดีๆ รอคุณอยู่ ฝาก Resume ไว้ได้เลยที่ Apply here
สนใจบริการสรรหาพนักงานสามารถติดต่อได้ที่ Contact Us