หนึ่งในข่าวที่มาแรงในปี 2022 คือข้อเสนอให้มีการปรับลดเวลาทำงานจากเดิม 5 วันเหลือแค่ 4 วัน/สัปดาห์เท่านั้น! ทำให้หลายบริษัทในยุโรปเริ่มทำการทดลองเพื่อดูว่าเทรนด์นี้จะเวิร์คจริงไหมอนาคต
.
ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2022 เป็นต้นมา พนักงานหลายพันคนจากบริษัทราว 70 แห่งในสหราชอาณาจักรได้เริ่มต้นทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งระหว่างโครงการนี้ พนักงานทุกคนจะทำงานแค่ 80% ของจำนวนชั่วโมงทั้งหมดที่เคยทำต่อสัปดาห์ แต่จะได้เงินเดือนเท่าเดิม เป้าหมายการทดลองครั้งนี้ก็เพื่อจะดูว่าพวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมหรือเปล่า?
.
หลังจากการทดลองสิ้นสุดลงในปลายปี 2022 ไซมอนด์ เออเซลล์ กรรมการผู้จัดการของ Tyler Grange บริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม เล่าว่า ผลการทดลองในบริษัทของเขาประสบความสำเร็จเกินคาด และพนักงานทำงานได้ประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 101%
.
ทีมของเออเซลล์ใช้กฎ 100/80/100 ซึ่งหมายถึงการจ่ายเงิน 100% ทำงานแค่ 80% ของชั่วโมงทำงาน ในขณะที่ต้องรักษาประสิทธิภาพการทำงานให้ได้ 100%
.
เออเซลล์ตระหนักดีว่ากฏนี้ค่อนข้างท้าทายมาก เพราะบีบให้พนักงานต้องทำงานจำนวนเท่าเดิม ในระยะเวลาแค่ 4 วัน และการหาวิธีการทำงานแบบใหม่ๆ ก็สร้างความกดดันให้พนักงานได้เช่นกัน
.
ระหว่างการทดลองบริษัท Tyler Grange ถึงกับพัฒนาแอปเพื่อวัดความเหนื่อยล้าและความสุขของพนักงานขึ้นมาใช้เพื่อแทร็กผลการทดลองในครั้งนี้ด้วย และทำให้พบว่าวันหยุด 3 วันต่อสัปดาห์ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการทำงานลดลง และยังเพิ่มระดับความสุขของพนักงานได้มากขึ้นด้วย
.
เออเซลล์ บอกว่า แม้จะทำงานแค่ 4 วัน แต่พนักงานที่ Tyler Grange กลับทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของ Global Talent Trends Report ล่าสุดของ LinkedIn พบว่าสิ่งที่คนทำงานยุคนี้ให้ความสำคัญนอกเหนือจากค่าตอบแทน คือความยืดหยุ่นในการทำงาน รองลงมาคือโอกาสในการพัฒนาทักษะ และ Work-life Balance การทำงาน 4 วัน/สัปดาห์อาจไม่ใช่คำตอบของทุกองค์กร แต่เขาเชื่อว่าพนักงานส่วนใหญ่มองหางานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นแน่นอน
.
นอกจากนี้ แกรี่ คอนรอย Founding Director ของ 5 Squirrels บริษัทผู้ผลิตสกินแคร์ยังแชร์ผลการทดลองว่า การทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ทำให้เกิดความร่วมมือร่วมใจในองค์กรมากขึ้น ปี 2022 ที่ผ่านมาพวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายในการผลิตที่ตั้งไว้ได้ ผลผลิตแต่ละรายการสูงกว่าที่คาดไว้มาก รวมไปถึงยอดขายและกำไรก็สูงขึ้นเช่นเดียวกัน
.
คอนรอย บอกว่า ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเห็นในหมู่พนักงานคือ พวกเขากระตือรือล้นในการทำงานและไม่ผลัดวันประกันพรุ่งเลย ทุกคนทำงานต่างๆ ได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง
.
เควิน คัลลิแนน เลขาธิการฟอร์ซา (Fórsa) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของการวิจัยครั้งนี้พบว่า เมื่อตรวจสอบผลตัวชี้วัดต่างๆ เช่น ความเครียด ความเหนื่อยหน่าย ความเหนื่อยล้า และเวลานอนเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมการทดลอง พบว่าผู้เข้าร่วมมีเวลานอนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 7.02 ชั่วโมงต่อคืนเป็น 7.72 ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับพวกเขาได้เวลานอนเพิ่มขึ้นมากกว่า 40 นาที/คืนเลยทีเดียว บางคนยังได้ใช้เวลากับงานอดิเรกโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 36 นาที/สัปดาห์ หรือมีเวลาจัดการงานบ้านเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติต้องทำหลังเลิกงานหรือรอวันหยุดเท่านั้น
.
"การทำงาน 4 วัน/สัปดาห์จึงนับเป็นการทำงานยุคใหม่ ที่เปลี่ยนแปลงสังคมได้โดยไม่สูญเสียค่าจ้างหรือประสิทธิภาพการทำงานเลย" คัลลิแนน กล่าว
.
ทั้งนี้ข้อมูลการวิจัยทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างผลการทดลองจากบริษัทในสหราชอาณาจักร 70 แห่งเท่านั้น หากมีการทดลองประเทศไทยต้องได้ผลที่ต่างกันอย่างแน่นอน เนื่องจากมีปัจจัยที่แตกต่างกันในหลายด้าน
.
การทำงาน 4 วัน/สัปดาห์เป็นอีกเทรนด์การทำงานที่น่าจับตามองเช่นกัน ปี 2023 นี้นอกจากเราจะทำงานกันแบบ Hybrid กันมากขึ้นแล้ว จะมีบริษัทไหนในไทยทดลองทำงาน 4 วันกันบ้างมั้ยนะ?
Q Hunter - Matching the right people at the first time
บริษัทจัดหางานที่มีตำแหน่งงานดีๆ รอคุณอยู่ ฝาก Resume ไว้ได้เลยที่ Apply here
สนใจบริการสรรหาพนักงานสามารถติดต่อได้ที่ Contact Us